Beacon VC เปิดเวทีให้ 11 สตาร์ทอัพไทยที่ Beacon VC เข้าไปร่วมลงทุน แสดงศักยภาพในงาน Innovation Glow – Startups Showcase
Beacon VC เปิดตัวขึ้นในปี 2016 ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 255 ล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงวันนี้ได้ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพไทยและต่างประเทศแล้วกว่า 20 ราย เนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 8 ของ Beacon VC จึงอยากสร้างโอกาสความร่วมมือใหม่ผ่านงาน Innovation Glow Startups Showcase เพื่อเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างสตาร์ทอัพไทยกับนักลงทุน เอสเอ็มอี และองค์กรที่สนใจร่วมพัฒนาธุรกิจกับ 11 สตาร์ทอัพไทยที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของ Beacon VC ซึ่งล้วนเป็นสตาร์ทอัพที่มาพร้อมกับนวัตกรรม และไอเดียทางธุรกิจ ที่สำคัญยังเป็นผู้นำตลาดในแต่ละอุตสาหกรรมด้วย
BUZZEBEES ผู้ให้บริการระบบ CRM & Loyalty และ e-Commerce Service ครบวงจร หนึ่งในผู้นำ ด้าน CRM & Digital Engagement Platform ในประเทศไทย เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อแบรนด์ต่างๆ ให้สามารถเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน วันนี้ไม่ใช่แค่บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Loyalty Platform เท่านั้น แต่ยังเป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัลผ่าน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform) จัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management) ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร (E-Commerce Service) และธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail Solution & E-Payment) โดยทุกบริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา ล่าสุดเปิดตัวธุรกิจใหม่ด้าน Affiliate Marketing ชื่อว่า Mediabuzz ช่วยแบรนด์สร้างยอดขายผ่าน Influencer Marketing ที่มีการใช้ Data และ AI ของบริษัทเข้ามาสร้างโมเดลการทำโฆษณา และสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดทั่วไป
Cryptomind สตาร์ทอัพ Series A รายนี้คือ One Stop Solution ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Digital Asset Fund Manager รายแรกภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. มีความตั้งใจที่จะสร้างคอมมูนิตี้สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นสะพานเชื่อมทุกคนสู่โลก Web3 แบบครบทุกองค์ประกอบในecosystem ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ คำปรึกษา รวมไปถึงการบริหารจัดการเงินลงทุนสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งด้านโปรดักต์, โทเคน, การระดมทุน และการตลาด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง พร้อมทั้งช่วยออกแบบและให้คำปรึกษา เพื่อให้ Web 3 Founders สามารถปั้น Unicorn ได้สำเร็จ พิสูจน์ได้จาก โปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่บริษัทให้คำแนะนำดูแล ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ารวมมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
FlowAccount ผู้นำด้านบริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEเริ่มต้นธุรกิจในปี 2015 ด้วยการออกแบบโปรแกรมบัญชีที่ใช้งานง่าย ทำงานผ่านระบบคลาวด์ ช่วยออกเอกสารธุรกิจ พร้อมบันทึกบัญชีให้อัตโนมัติ ทำให้ผู้ประกอบการใช้งานได้ด้วยตัวเอง สะดวกต่อการทำธุรกิจ สร้างความแตกต่างจากโปรแกรมบัญชีในท้องตลาดในเวลานั้น ที่ส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมออฟไลน์ ต้องติดตั้งลงคอมพิวเตอร์ มีการใช้งานที่ซับซ้อน และมีราคาสูง ต่อมาได้เพิ่มฟังก์ชั่นโปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ FlowPayroll และโปรแกรมสแกนบิลและใบเสร็จ AutoKey ให้ใช้งานได้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ประกอบการในการจัดการข้อมูลและบริหารธุรกิจได้ในระบบเดียว ปัจจุบันมีลูกค้าบริษัทและพนักงานฟรีแลนซ์มากกว่า 120,000 ราย และมีพันธมิตรด้านบัญชีกว่า 4,000 บริษัท
FWX แพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลางหรือ DeFi มีจุดยืนในการทำแพลตฟอร์ม DeFi ให้ปลอดภัย เข้าถึงง่ายและยั่งยืน และยังสร้างระบบการให้กู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล (LBP) โดยใช้โมเดลการแจกผลตอบแทนกับผู้ใช้งานในแบบ Real Yield ซึ่งเงินที่นำมาเป็นผลตอบแทนจะมาจากผลกำไรจาก Business Model ของแพลตฟอร์ม ล่าสุดเปิดตัวฟีเจอร์ Permissionless Listing ช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างและจัดการโทเคนของตัวเองพร้อมกับเปิดให้คนอื่นๆ ซื้อขายแบบ Leverage รวมถึงบริการ Lending ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และผู้ที่ต้องการ Listing เหรียญของตัวเองเข้าไปใน FWX ก็สามารถเข้ามาสร้างโทเคนได้โดยโทเคนจำเป็นต้องถูก List อยู่ใน Trader Joe, Pangolindex หรือ FWX Swap
Horganice สตาร์ทอัพไทย Series A ที่เข้ามาทรานส์ฟอร์มธุรกิจหอพัก ในฐานะตัวกลางในการเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างเจ้าของหอพัก และผู้เช่า ให้เกิดประสิทธิภาพcและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์เด่นๆ อาทิ การรับบิลค่าเช่าผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน โอนเงินค่าเช่าไปยังบัญชีธนาคารของเจ้าของหอ แจ้งซ่อม แจ้งทำความสะอาดโดยพาร์ทเนอร์กับ Startup อย่าง Beneat หรือแจ้งย้ายออกไปยังเจ้าของที่หรือเจ้าของหอได้อย่างรวดเร็ว พร้อมบริการรถบรรทุกขนส่งเพื่อขนย้ายของจาก 360TRUCK รวมถึงทางเจ้าของหอพัก หรือเจ้าหน้าที่ดูแลหน้างานสามารถแจ้งข่าวสารข้อความไปยังผู้เช่าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางด้านเวลา รวมถึงทรัพยากรอื่นๆ ให้กับเจ้าของหอได้อีกด้วย สามารถช่วยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้มากกว่า 20,000 ราย ดูแลห้องพักกว่า 1,000,000 ห้อง และจัดการค่าเช่ามากกว่าปีละ 10,000 ล้านบาทต่อปี วันนี้เติบโตไปสู่การเป็น PropTech อันดับต้นๆ ของประเทศไทย รุกธุรกิจตลาดสดด้วย Myket Pro แพลตฟอร์มบริหารจัดการธุรกิจตลาด เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมตลาดสดและตลาดนัด ซึ่งเป็นอุตสาหรรมที่มีขนาดใหญ่มีเม็ดเงินไหลรวมกันอยู่มหาศาล
ION ENERGY สตาร์ทอัพพลังงานโซลาร์สัญชาติไทย Series A สตาร์ทอัปไทยรายแรกที่บีคอน วีซีได้ลงทุนผ่าน Beacon Impact Fund ผู้ให้บริการติดตั้ง บริหารพลังงาน และพัฒนาแพลตฟอร์มพลังงานสะอาดจากโซล่าร์เทคโนโลยีครบวงจรเพื่อให้ลูกค้าทั้งผู้อยู่อาศัย รายย่อย และธุรกิจ สามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม รองรับ Solar Energy Ecosystem ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดย ION ENERGY นำเสนอโซลูชั่นให้บริการทั้งแบบ EPC ในรูปแบบรับเหมา ออกแบบ จัดหา ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบโซล่าร์ให้กับลูกค้าแบบครบวงจร และ Private PPA เป็นการลงทุนติดตั้งโซล่าร์โซลูชั่นโดย ION ไม่คิดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าธุรกิจ ผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยลูกค้าจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแค่ในส่วนของค่าไฟฟ้าที่ใช้จริงในแต่ละเดือนเท่านั้น ซึ่งมีราคาที่ต่ำกว่าการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าขั้นต่ำประมาณ 20-50% ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าเอสเอ็มอีและองค์กรขนาดใหญ่ ปัจจุบันไอออนเป็นผู้ติดตั้งโซลาร์สำหรับที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
Jitta สตาร์ทอัพด้าน WealthTech ที่คิดค้นนวัตกรรมการเงินการลงทุนให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนมากขึ้นผ่านเทคโนโลยี AI เข้ามาดูแลการลงทุนแบบ 100% และพัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นครอบคลุมแทบทุกตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อการลงทุนเน้นคุณค่า ซึ่งพิสูจน์แล้วช่วยนักลงทุนสร้างผลตอบแทนชนะตลาดระยะยาว ล่าสุดเปิดตัว Jitta Card โดยให้ทดสอบใช้งานแล้วเวอร์ชั่น Beta เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยจ่าย-ออม-ลงทุน ใช้เทคโนโลยีมาออกแบบการลงทุนขนาดเล็ก (Micro Investment) ช่วยให้ทุกการใช้จ่ายมีเงินออมและส่งไปลงทุนอัตโนมัติ
LINE MAN Wongnai เทคสตาร์ทอัพที่ Unicorn สัญชาติไทยที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ โดย Beacon VC ได้เริ่มการลงทุนในบริษัท Foodstory คู่ค้าสำคัญของ LINE MAN WONGNAI ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการมาอยู่ภายใต้ LINE MAN Wongnai ในปี 2020 มูลค่าบริษัทมากกว่าพัน ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ออนดีมานด์แบบครบวงจร ครอบคลุมการส่งอาหารและสินค้า เมสเซนเจอร์ และเรียกรถรับ-ส่ง ปัจจุบันให้บริการฟู้ดดิลิเวอรีและเมสเซนเจอร์ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วไทย และมีร้านอาหารบนแพลตฟอร์มกว่า 500,000 ร้าน ไรเดอร์ 100,000 ราย ไดรเวอร์ 25,000 คัน รวมทั้งมี Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหารและการขายผ่านดิลิเวอรี่มากกว่า 55,000 ร้าน ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai ได้เติบโต จนกลายเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของไทยที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่และธุรกิจท้องถิ่นทั่วไทยให้ดีขึ้นด้วยดิจิทัล พร้อมตั้งเป้าปีหน้าเข้า IPO ใน SET ซึ่งจะทำให้ LINE MAN Wongnai เป็นเทคสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์
PRIMO ผู้ให้บริการ MarTech ครบวงจรสำหรับองค์กรและธุรกิจขนาดใหญ่ โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการได้แก่ Enterprise Loyalty Platform แพลตฟอร์มสมาชิกของ PRIMO ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสร้างและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านฟีเจอร์ที่ครอบคลุม เช่น การจัดการระบบสะสมคะแนน การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม และการแจกจ่ายรางวัลแบบหลายช่องทาง และ Digital Product Development Service ซึ่งเป็นบริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลทั้งในรูปแบบของ Mobile Application และ Web Application โดยครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ UX/UI การพัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนการทดสอบระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลูกค้าได้อย่างแท้จริง PRIMO ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Central The 1, KBank, M150, Nescafe, BDMS และ Tokio Marine Insurance เป็นต้น
T2P FinTech ชั้นนำด้านโซลูชันการเงินแบบครบวงจร สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจแบบ B2B2C ก่อตั้งในปี 2011 อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และได้รับใบอนุญาต e-Money รวมไปถึงใบอนุญาตระบบการชำระเงิน ซึ่ง T2P นั้นมีทีมงานที่มีประสบการณ์การพัฒนา e-Wallet แบบ B2B2C ให้ตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงิน โดยมีบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายปัจจุบันมีผู้ใช้งานในแพลตฟอร์ม 2.2 ล้านคนต่อเดือน ยอดการทำธุรกรรม 4.5 ล้าน Transaction ต่อเดือน คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ